ข้าวกล่องชุดเมนูน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ผักทอด ไข่ต้ม

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมพ่อครัวแมวขอมมาอัพเดท ตัวอย่างข้าวกล่องน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ไข่ต้มและผักสด รวมไปถึงประวัติความเป็นมาจากน้ำพริกกะปิกันครับ

สวัสดีครับ สำหรับคนที่ไม่รู้จักผม ผมคือพ่อครัวแมว ให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และ รับทำข้าวกล่องจัดเลี้ยง

สำหรับวันนี้นะครับพอดีได้รับออเดอร์ข้าวกล่องจากลูกค้า 100 กล่อง ลูกค้าเลือกเมนู น้ำพริกกะปิและปลาทูทอด
ผมพ่อครัวแมวเลยหาข้อมูลดีๆประวัติของน้ำพริกกะปิมาฝากกันครับ ดูได้จากยูทูปด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ขอขายก่อนนะครับ ข้าวกล่องชุดน้ำพริกกะปิของผมชุดนี้ราคากล่องละ 65 บาทเท่านั้นครับ
อร่อยแซ่บไปกับน้ำพริกกะปิ และเครื่องเคียงแบบไทยโบราณๆเลยครับ

ราคาข้าวกล่อง ชุดน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ไข่ต้ม ราคากล่องละ65 บาทเท่านั้น

สำหรับประวัติของน้ำพริกกะปิ ยังไม่มีประวัติชัดเจนว่าใครเป็นคนเริ่มทำ หรือ เจ้าของตำหรับเมนูน้ำพริกกะปินี้
ผมลองค้นหาข้อมูลของคำว่า น้ำพริก กับ กะปิ ได้ข้อมูลคร่าวๆดังนี้ครับ

กะปิ พอมีเรื่องให้ผมสืบค้น ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการตั้งภาษีกะปิ
ใช้ภาษาที่ใช้เรียกกะปิ เป็นภาษาทางราชการเรียกว่า งาปิ

สาเหตที่เรียกว่า งาปิ ก็เพราะว่า
กรมหมื่นสุรินทรรักษ์รับสั่ง แก่เจ้าพนักงานพระคลังสินค้าเขียนตราตั้งและบัญญชี ว่างาปิ
แทนกะปิเพราะว่า กะปิเป็นของหยาบคายต่ำช้า

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 มีผู้แต่งหนังสือถวายฎีกา และมีกล่าวถึงกะปิ โดยใช้คำว่า งาปิ

รัชกาลที่ 4 ทรงทราบก็ทรงกริ้ว ว่าอุตริ ให้เขียนประกาศสั้นๆ ไปติดที่กำแพงพระบรมมหาราชวังด้านตะวันออก
มีความว่า

ห้ามเรียกกะปิว่างาปิ แต่ให้เรียกว่าเยื่อเคย
หรือจะคงเรียกว่ากะปิต่อไปก็ตามใจ ให้ประกาศแก่ราษฏรโดยทั่วกัน”

ตำราแม่ครัวหัวป่าก์ หนังสือ สอนทำอาหาร ร.5
ตำราแม่ครัวหัวป่าก์

ซึ่งในตำราอาหาร เล่มแรกของไทย ที่ชื่อว่า ตำราแม่ครัวหัวป่าก์

ของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ซึ่งเป็นตำราสมัยรัชกาลที่ห้า ก็ใช้คำว่า เยื่อเคย ตลอดทั้งเล่มไม่ได้เรียกว่ากะปิ

ส่วน เมนู น้ำพริก คาดว่า มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งน่าจะเป็นช่วง ปลายๆในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ดังนี้เมนูน้ำพริกกะปิ น่าจะเกิดขึ้นในสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนปลายนั้นเองครับ

น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด
น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด

ผมเสริมนิดกับเมนูน้ำพริกกะปินะครับ เป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ เวลาคนที่ทำเมนูน้ำพริกกะปิไปถวายพระ
ควรทำให้กะปิสุกก่อน จะเอาห่อใบตอนไปเผาไฟก่อนก็ได้นะครับ ไม่เช่นนั้น ถ้าพระฉันท์ไปจะอาบัติ
เพราะพระธรรมวินัยพระห้ามฉันท์เนื้อสัตว์ดิบครับ

Leave comment