ทำบุญ ๙วัดเสริมมงคล จังหวัดอยุธยา
วันนี้พักเรื่องกิน มาเรื่องบุญบ้างนะครับ
ทำบุญเก้าวัด. จังหวัดอยุธยา.
ทริปเช้าเย็นกลับ อิ่มบุญ สบายตาเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต. เช้านี้พวกเราชาวร้านต้นมะขามจะขอพาทัวร์ทำบุญเก้าวัดในจังหวัดอยุธยานะครับ. วัดที่ไปนั้นจะใกล้ๆกันมากเราจะพาไปทำบุญรอบเมืองเก่าของอยุธยากันครับ
ทริปนี้เราออกจากสมุทรปราการตั้งแต่8โมงเช้า. กลับมาถึงก็ประมาณ หกโมงเย็นมาเริ่มกันเลยครับ
การเดินทางมาวัดใหญ่ชัยมงคล
หากเดินทางมาจากรุงเทพโดยใช้ถนนสายเอเชีย(ทางหลวงหมายเลข 32)เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยก
เข้าอยุธยา ตรงเข้ามาจะพบวงเวียนเจดีย็วัดสามปลื้ม ให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 1.5 กม.
วัดใหญ่ชัยมงคล จะอยู่ทางซ้ายมือ
เป็นวัดที่เก่าแก่และสวยงามของจังหวัดอยุธยาเลยครับ พอถึงวัดใหญ่ชัยมงคลเราก็ไปไหว้พระพุทธชัยมงคลในพระอุโบสถ ไหว้พระนอนที่วิหารพระพุทธไสยาสน์ เดินเที่ยวชมบรรยากาศรอบๆวัด. สวยมาก
ลงมาจากที่จอดรถเราจะเห็นรถสามล้อนำเที่ยวเก้าวัดจำนวนมาก
พอเข้ามาในวัดก็จะเห็นชาวต่างชาติมากเช่นกัน
-เจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นเจดีย์ประธานทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม-สวยงามมาก
ซึ่งสมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ
และความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีต่อเหล่าทหารเหล่านั้น และพระะราชทานนามว่า
“เจดีย์ชัยมงคล”เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่รบชนะ มังกะยอชวาพระมหาอุปราชของหงษาวดี ที่ต.หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี
เมื่อไหว้พระเสร็จแล้วเราแวะเติมพลังกับก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกที่หน้าวัดก่อนนะครับ. ลองก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเข้มใช้ได้เลย. ทานเสร็จตบท้ายด้วยขนมถ้วยอร่อยๆ
2.วัดพนัญเชิงห่างจากวัดใหญ่แค่ 1.5 กิโลเมตร เข้าไปกราบพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา
3.วิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งอยู่ห่างจากวัดพนัญเชิงวรวิหารประมาณ 6 กิโลเมตร
พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์องค์เดียวในประเทศไทย ลงรักปิดทองมีแกนเป็นอิฐ ส่วนผิวนอกบุด้วยสำริด ทำเป็นท่อนๆมาเชื่อมกัน สูง 12.54 เมตร หน้าตักกว้าง 4 วาเศษ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระไชยราชา ราวพ.ศ. 2081 เดิมประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม โปรดเกล้าให้อัญเชิญมาไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้พบพระพุทธรุปบรรจุไว้ในพระอุระด้านขวา เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
4.วัดแม่นางปลื้ม ห่างจากวิหารพระมงคลบพิตรแค่ 2.5 กิโลเมตร เท่านั้น สำหรับวัดนี้พวกเราชอบกันมาก ด้วยที่บรรยากาศเงียบสงบ บรรยากาศดีมากต้นไม้เต็มไปหมด แล้วจะไม่ค่อยพบตู้รับบริจาคมาก ดอกไม้ธูปเทียนเป๋นของวัดจะทำบุญเท่าไหร่ก็ได้. เข้าไปกราบหลวงพ่อขาว. ที่งดงามกันซักหน่อย และสูดบรรยากาศให้เต็มปลอดที่วัดนี้ได้เลย
ประวัติ วัดแม่นางปลิ้ม แม่ปลื้มเป็นชาวบ้านอยู่ริมน้ำชานพระนครคนเดียว ไม่มีลูกหลาน วันหนึ่งสมเด็จพระนเรศวร(ทรง)พายเรือมาแต่พระองค์เดียว ท่ามกลางสายฝนเมื่อเสด็จมาถึงเห็น(ทอดพระเนตร)กระท่อมยังมีแสงตะเกียงอยู่ เวลานั้นค่ำอยู่ สมเด็จพระนเรศวรจึงได้(ทรง)แวะขึ้นมาในกระท่อมแม่นางปลื้มเห็น ชายฉกรรจ์เสื้อผ้าเปียกขึ้นมา จึงได้กล่าวเชื้อเชิญด้วยความมีน้ำใจ แต่พระองค์ท่านทรงเสียงดังตามบุคลิกของนักรบชายชาตรี แม่ปลื้มได้กล่าวเตือนว่า ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าเสียงดังนักเลย เวลานี้ค่ำมากแล้วเดี๋ยวพระเจ้าแผ่นดินท่านทรงได้ยินจะโกรธเอาพระองค์กลับตรัสด้วยเสียงอันดังขึ้นอีกว่า ข้าอยากดื่มน้ำจันทน์ ข้าเปียกข้าหนาว อยากได้น้ำจันทน์ให้ร่างกานอบอุ่นพลันแม่ปลื้มยิงตกใจขึ้นมากอีก เพราะว่าวันนี้เป็นวันพระ แม่ปลื้มได้กล่าวว่า ถ้าจะดื่มจริงๆ เจ้าต้องสัญญาว่า ไม่ให้เรื่องแพร่หลายเดี๋ยวพระเจ้า แผ่นดินรู้ จะอันตราย พระนเรศวรรับปาก แม่ปลื้มจึงหยิบน้ำจันทน์ให้กิน(เสวย) สมเด็จพระนเรศวรได้ประทับค้างคืนที่บ้านของแม่ปลื้มเช้าได้เสด็จกลับวัง ต่อมาได้จัดขบวนมารับแม่ปลื้มไปเลี้ยงในวัง ด้วยความที่แม่ปลื้มเป้นคนมีเมตตา จงรัภักดีต่อพระมหากษัตริย์ หลังจากแม่ปลื้มเสียชีวิต สมเด็จพระนเรศวรจัดงานศพให้สมเกียรติ แล้วสมเด็จพระนเรศวรจึงสร้างวัดให้แม่ปลื้ม นามว่า “วัดแม่นางปลื้ม” พระประทานของที่นี่ คือ หลวงพ่อขาว ซึ่งสวยงามมาก
5.วัดธรรมมิกราช
วัดนี้เราเข้าไปกราบขอพรพระนอนองค์ใหญ่ แล้วเดินชมวัตถุโบราณต่างๆที่งดงามในสมัยอยุธยา
เศียรพระพุทธรูปหล่อสำฤทธิ์เป็นศิลปะสมัยอู่ทอง เดิมอยู่ในวิหารหลวงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก กล่าวว่าผู้ใดเป็นคดีความกันมาสาบานต่อหน้าพระพักตร์คนผิดต้องตายหรือมีอันเป็นไปทุกคน
ความโดดเด่นเมื่อแรกเห็นวัดนี้ คือ เจดีย์ทรงกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคือมีปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมรอบที่สวยงาม
เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย และยังคงสภาพที่ดีมาก เพราะพม่าได้ไปตั้งกองบัญชาการอยู่ที่วัดนี้
พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดขนาดใหญ่ที่สุดที่ปรากฏและมีความงดงามมาก ด้านหลังพระอุโบสถยังมีอีกองค์หนึ่งแต่เล็กกว่า คือ พระศรีอริยเมตไตรย์
7.วัดเชิงท่า
วัดเชิงท่า มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยพระองค์หนึ่ง คือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช
รูปหล่อ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ทรงบัลลังก์ ขนาดเท่าองค์จริง
8.วัดท่าการ้อง เป็นวัดที่ใหญ่มากๆ ภายในวัด มีการจัดเหมือนเป็นตลาดนัด เลย ของขายเพียบ มีการจัดโซนต่างๆไว้มากมาย. เราจะพบเห็นตุ๊กตาและหุ่นยนต์ ร่วมไปถึงซุปเปอร์ฮีโร่ เต็มไปหมด. ตลอดจนตู้รับบริจาคที่วางไปเยอะมาก เข้ามาก็อย่าลืมเข้าไปกราบหลวงพ่อยิ้ม หรือพระพุทธรัตนมงคล พระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนต้น
เป็นวัดที่สวยงามมาก กษัตราธิราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา นอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับวังหลังหรือวังสวนหลวง เดิมชื่อ “วัดกษัตรา” หรือ “วัดกษัตราธิราช
โดยมีพระปรางค์เป็นประธานของวัด ในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวัง และกรมขุนอิศรานุรักษ์ (เกศ) ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม
วัดกษัตราเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกษัตราธิราช” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สถานที่สำคัญภายในวัด คือ พระประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ปูนปั้น ฝีมือประณีตงดงาม ใบเสมาของพระอุโบสถเป็นใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง
ปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา พระสงฆ์ที่เป็นที่นับถือ คือพระเกจิอาจารย์หลวงปู่เทียม
อร่อยคับพี่
ทริปนี้เคยไปทำบุญมาเหมือนกันคับ